1. ให้ดูไปด้านหน้า อย่ ามองย้อนไป
ทุกคนเคยทำผิดมาแล้วทั้งนั้น แต่ต้องไม่จมอยู่กับอดีตที่บกพร่อง
เพราะชีวิตจะต้องดำเนินต่อไป ควรวางเป้าหมายเล็กๆที่เป็นได้ และก็พย าย ามทำให้สำเร็จ
2. รู้จักให้อภัยตัวเองรวมทั้งผู้อื่น
สำหรับคนส่วนใหญ่แล้ว เรื่องราวต่างๆที่เกิดขึ้นในชีวิต สำเร็จพวงมาจากพฤติกรรมของตัวเองทั้งหมดทั้งปวง
ในบางครั้งบางคราว เราต่างตกลงใจบกพร่อง แต่เมื่อรู้สำนึกแล้ว ก็จำต้องปลดปล่อยให้มันผ่านไป
เรียกว่าเป็นการยกโทษ แล้วก็จะต้องให้อภัยตนเองเมื่อทำผิดพลาด เพื่อจะเดินหน้าถัดไป
แล้วก็ใช้ความผิดพลาดจากอดีตเป็นบทเรียน เพื่อก้าวย่ างที่ดีกว่าในอนาคต
3. ถ้าหากแก้วมีน้ำแค่ครึ่งเดียว ควรเติมให้เต็มแก้ว
การมองว่า มีน้ำเหลืออยู่ครึ่งแก้ว หรือน้ำหายไปครึ่งแก้วนั้น ถูกอีกทั้ง 2 อย่ าง
อยู่ที่ว่าผู้ดูเป็นคนมองโลกในแง่ดีหรือร้ า ย และไม่ผิดอะไรที่คุณจะเพิ่มน้ำให้เต็มแก้ว
4. มองหาบุคคลต้นแบบ
ทุกคนควรจะมีบุคคลต้นแบบที่เป็นแรงผลักดัน คนคนนั้นอาจเป็นผู้ที่เอาชนะปัญหาใหญ่ๆได้สำเร็จ
รวมทั้งประสบผลสำเร็จอย่ างงงวยดงามสุดท้าย หรือเป็นผู้ทำงานหนักแล้วก็สำเร็จผล
ต้องเอาคนนั้นเป็นแรงจูงใจสำหรับการดำรงชีพ
5. พาตัวเองเข้าไปอยู่ในวงการของผู้ที่บรรลุเป้าหมายแล้วก็มอง โลกในทางดี
มันเป็นเรื่องมหัศจรรยู์ที่พลังอำนาจของบุคคลอื่น สามารถทำให้เกิดผลกระทบต่อพลังในตัวเราได้
ผู้ที่คิดในด้านบวกจะช่วยกระตุ้นแล้วก็เป็นแรงจูงใจให้เรา เชื่อมั่นในตัวเองว่า
เราสามารถทำสิ่งที่ขมักเขม้นไว้ให้สำเร็จได้ จำไว้ว่า..ต้องอยู่ให้ห่างคนที่คิดแต่แง่ร้ า ย
ซึ่งจะขวางการเดินหน้าของคุณ ดังพุทธศาสนสุภาษิตที่ว่า “คบคนไม่ดี
พาลพาไปพบไม่ถูก คบบัณฑิต บัณฑิตพาไปพบผล”
6. เห็นค่าสิ่งดีๆในชีวิต
เมื่อพวกเราพึงพอใจกับทุกเรื่องดีๆที่เกิดขึ้น ต่อให้เกิดเรื่องเล็กๆน้อยๆก็ตาม มันจะช่วยให้เราขจัดความคิดในด้านลบออกไป
การจุดโฟกัสแต่ว่าสิ่งดีๆพวกนี้ จะมีผลให้อุปสรรคที่เราพบเจออยู่ เปลี่ยนเป็นเรื่องเล็กน้อยที่เราจัดการได้ง่ายขึ้น
7. รู้จักบริหารเวลาอย่ างหลักแหลม
อย่ าเสียเวลากับเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับสิ่งที่คุณตั้งเป้าเอาไว้ภายในชีวิต สิ่งสำคัญเป็น
มุ่งทำในเรื่องที่ทำให้ชีวิตของคุณเป็นไปดังที่หวังไว้ ซึ่งจะส่งผลให้คุณมีทัศนคติที่ดี
8. จินตนาการว่ามีสิ่งดีๆเกิดขึ้น
แปลกแต่ว่าจริงที่ว่า คนส่วนมากมักถูกใจวาดภาพเรื่องเ ล วร้ า ยกำลังเกิดขึ้น โดยชอบบอกว่า
“ถ้ามันเกิดขึ้น…” จงฝึกคิดถึงเรื่องดีๆกำลังเกิดขึ้น มองเห็นภาพงานที่กำลังทำเดินไปด้วยดี
(ไม่ว่าจะเป็นงานที่บ้านหรือสถานที่สำหรับทำงาน) และก็ได้รับคำกล่าวชมเชยจากคนที่อยู่รอบข้างว่า“เยี่ยมมาก” เพราะนั่นจะเป็นอันมากหัวใจให้คุณคิดบวกต่อไป
9. ข้อผิดพลาดมีไว้ให้ศึกษา มิใช่แส้ที่เอาไว้เ ฆี่ ย น ตี
ทุกคนล้วนเคยทำผิดทั้งหมด แล้วก็ถึงแม้ว่าได้พย าย ามอย่ างดีที่สุดแล้ว แต่ว่าก็ยังทำพลาด ขอให้จดจำไว้ว่า
ยังได้โอกาสให้เริ่มต้นใหม่ ความผิดพลาดต่างๆก่อนหน้านี้ที่ผ่านมาถือเป็นบทเรียน เพื่อนำไปปรับปรุง สิ่งที่จะทำต่อไปในอนาคต
10. อยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ดี
ถ้าหากรอบๆตัวเต็มไปด้วยสิ่งของวางเกะกะ ราดกระจัดกระจายไปทั่วห้อง
ทดลองหาเวลาจัดเก็บ ให้เป็นระเบียบ ซึ่งจะช่วยให้คุณแปลงมุมมอง ความนึกคิดได้มาก
คนไหนกันจะมองโลกในแง่ดีได้ ถ้าเกิดจำเป็นต้องอยู่ท่ามกลางภาวะเลอะเทอะรุงรังตลอดระยะเวลา
เพราะสิ่งแวดล้อมที่ดี จะช่วยสร้างและเป็นแรงดลใจให้เกิดทัศนคติด้านบวก
11. รับข้อมูลข่าวสารที่ดี
หมั่นอ่านบทความที่สร้างสิ่งจูงใจ หรือฟังธรรมะที่กระตุ้นให้รู้สึกตื่นตัว แล้วก็เกิดสติปัญญา
ซึ่งจะช่วยให้มองโลกและชีวิตได้อย่ างรู้เรื่อง มีความหวัง และความสบาย
12. ให้คำมั่นสัญญากับตัวเอง และบอกตนเองบ่อยๆ
เพราะคำมั่นสัญญาดีๆส่งผลต่อกระบวนการคิดของตนเอง ดังเช่น ถ้าคุณมีลักษณะหม่นหมองเสมอๆ
คำสาบานของคุณก็คือ “ฉันเป็นสุข ฉันกักคุมเองได้”
บอกตัวเองเช่นนี้หลายๆครั้งในทุกๆวัน แล้วคุณจะรู้สึกถึงพลังความนึกคิดด้านบวกที่เกิดขึ้น
เก่งขึ้น
ขอบคุณบทความจาก
https://freelydays.com/13210/คำค้นหา :
ใจกว้าง
แสดงกระทู้
เมตตาเขา พวกเราสุขเอง
1.This too shall pass ประเดี๋ยวมันก็จะผ่านไป